แบบฝึกทักษะ




แบบฝึกทักษะที่ 1 ให้นักเรียนฝึกพิมพ์ตามข้อมูลต่อไปนี้ แล้วบันทึก File เป็น ประวัติ ตามด้วยชื่อนักเรียน ส่วนเนื้อหา ให้ใส่ชื่อนร. เลขที่ ห้อง และแนบไฟล์ ส่ง(ให้ทำงานให้เสร็จเรียบร้อยก่อนส่งนะจ๊ะ)
ส่งทางอีเมล์ naulchey@gmail.com

ประวัติของข้าพเจ้า
1.            ชื่อ – สกุล     ชื่อ เล่น       ชั้น    เลขที่
2.            วัน เดือน ปี เกิด     อายุ     ปี 
3.            ที่ อยู่  ...........บ้านเลขที่....... หมู่ที่........ตำบล....อำเภอ.....จังหวัด...
     เบอร์โทร..........
   EMAIL………………………
4.            ชื่อ บิดา-มารดา  อาชีพ.....................................
5.            ปัจจุบันพักอยู่กับ..........(บิดา/มารดา/ผู้ปกครอง)
6.            ผลการเรียนเฉลี่ย...........(ปีการศึกษา 2556)
7.            วิชาที่ชอบ     ...... วิชาที่ไม่ชอบเรียน............................(บอกเหตุผล)..........................
 เพื่อนสนิท ชื่อ.................................................................................................................
8.            ข้อมูลด้านสุขภาพ   โรคประจำตัว....................  ประวัติการประสบอุบัติเหตุ..........
สายตา  ........ (สั้น)    ........(ยาว) .........(เอียง)   เลือดกรุ๊ป............
9.     อุปนิสัยในตัวเอง..............................................................................................................
10.    เมื่อมีปัญหา นักเรียนจะปรึกษา( พ่อ /แม่/ผู้ปกครอง/เพื่อน)............................................
11.    ความสามารถพิเศษ..........................................................................................................
12.    คุณลักษณะอันพึงประสงค์   ให้ประเมินตนเองว่ามีคุณลักษณะต่อไปนี้ ระดับใด
  โดยเติมตัวเลข 4 : ดีมาก   3: ดี      2 : พอใช้  1: ปรับปรุง
4     รับผิดชอบ  1    มีวินัย.......... กล้าแสดงออก  ......กตัญญู  .... ซื่อสัตย์ .......มีน้ำใจ
.........พึ่งตนเอง    .....ประหยัด........ มีมนุษยสัมพันธ์  ....ช่วยเหลือผู้อื่น ......ใฝ่รู้ใฝ่เรียน
........ปรับตัวง่าย  .....รู้จักใช้เวลา ......ตรงต่อเวลา .....อดทน..........ขยัน
13.     ดาราคนโปรด..........................    เพลงที่ชื่นชอบ...................  อนาคตอยากจะเป็น.......
*******************************************
แบบฝึกทักษะที่ 2
 (ทำระหว่างวันที่  10-14 มิ.ย.57) ไม่ว่าจะได้เรียนหรือไม่
ให้นักเรียนฝึกพิมพ์ข้อความตามรูปแบบต่อไปนี้(จัดรูปแบบให้สวยงาม)
 แล้วบันทึกชื่อไฟล์ เป็น แบบฝึกทักษะที่ 2
แนบไฟล์ ส่งทาง Email : naulchey@gmail.com  โดยใส่ตรงเนื้อหาเป็นชื่อนร. เลขที่.... ชั้น...
        
    
ข้อควรรู้ 10 ประการเกี่ยวกับระบบ Windows 7 ที่คนไอทีควรทราบ
ในทุกๆ ปีนั้น เราจะเห็นว่ามีการจัดอันดับ 10 อันดับแทบจะทุกๆ เรื่องในโลก ตั้งแต่การจัด 10 อันดับดาราที่แต่งตัวยอดแย่ที่สุดในการประกาศผลรางวัลออสการ์ หรือ 10 อันดับวิธีการลดหุ่นก่อนฤดูใบไม้ผลิ หรือแม้กระทั่ง 10 อันดับวิธีที่จะแกล้งคนในออฟฟิศข้างๆ
ที่เว็บไซต์ Springboard Series เรามักจะมีคำแนะนำเรื่องเดิมๆ เรื่องเดียว ซึ่งก็เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ผู้ดูแลเดสก์ทอปสามารถไปทดลองเล่นได้ จริงๆ เราก็อยากลองให้คำแนะนำด้านการลดน้ำหนักบ้างนะครับ แต่ผมว่า ผมคงให้คำแนะนำแต่ในเรื่องที่เราเก่งที่สุดแล้วดีกว่าครับ วันนี้ผมจะมาจัดอันดับข้อควรรู้ 10 ประการที่คนทำงานไอทีควรรู้เกี่ยวกับระบบ Windows 7 ให้ท่านผู้อ่านทราบครับ
ขณะนี้ระบบ Windows 7 ได้ปล่อยเวอร์ชั่นทดลองใช้งานออกมาแล้ว ผมแนะนำให้คุณลองดาวน์โหลดระบบนี้มาใช้กับเครื่องทดลอง แล้วดูว่ามันทำงานกับแอพพลิเคชั่นและเครื่องมือของคุณได้ดีไหม และเพื่อทำให้การทดสอบของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผมอยากจะแนะนำฟังก์ชั่น 10 ฟังก์ชั่นหลักที่โดดเด่นมากของระบบปฏิบัติการตัวนี้ครับ
10 things to know about Windows 7 that IT people should know.
Every year, we can see that are ranked top 10 almost every subject in the world since the 10 celebrities who dressed the worst in the announcement of the Academy Awards, or 10 ways to reduce body before spring. Or even top 10 ways to simulate people in the office next door.
Springboard Series site, we always have a single word about the original story, which was about the new technology. Administrator's desktop can be playable, I really want to try counseling to lose some weight but I think I would give advice but in the end, we like better. Today I came to know 10 ways in which people work, IT should know about Windows 7 to your readers know.
This board has released the trial version of Windows 7 is out. I encourage you to try this system with a trial download. Then see if it works with an application and your good. And to make your testing more effective. I want to introduce functions 10 main functions of the operating system, the more prominent this.


แบบฝึกทักษะที่ 3
ให้นักเรียนฝึกพิมพ์ ตามข้อความต่อไปนี้อย่างถูกต้องแล้วจัดรูปแบบให้สวยงาม โดยทำการแทรกรูปภาพที่เกี่ยวข้อง แล้วบันทึกไฟล์ แบบฝึกทักษะ 3 ตามด้วยขื่อนร. ส่งทางอีเมล์ naulchey@gmail.com 

        

                           สิ่งควรรู้ 10 ประการของระบบ Windows 7

1.การทำงานร่วมกันได้กับโปรแกรมอื่น
ระบบปฏิบัติการ Windows Vista จะเปลี่ยนระบบโครงสร้างของระบบคุณลงลึกไปจนถึงระดับเคอร์เนล (Kernel) เลยทีเดียว ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ระบบ Windows Vista นั้นมีความปลอดภัยมากกว่าระบบ Windows XP แต่อย่างไรก็ดี ถ้าคุณจะเลือกใช้ Windows Vista แล้วละก็ คุณก็ต้องปรับระบบของคุณใหม่จนเรียกว่าแทบจะยกเครื่องเลยทีเดียว เพื่อทำให้ระบบของคุณทำงานร่วมกับ Windows Vista ได้ ถึงแม้ว่าหลังจากที่ Windows Vista ได้ออก Service Pack 1 มาและตอนนี้ระบบทั่วๆ ไปก็สามารถทำงานร่วมกับ Windows Vista ได้แล้ว แต่การวางระบบ Windows Vista กับสภาพแวดล้อมของเดสก์ทอปนั้นก็เรียกได้ว่า ต้องยกเครื่องระบบใหม่กันเลยทีเดียว แถมยังต้องเหนื่อยทำงานล่วงเวลาหลายวันอีกต่างหาก
ระบบ Windows 7 นั้นสร้างขึ้นมาจากระบบโครงสร้างแบบเดียวกับ Windows Vista ดังนั้นโปรแกรมต่างๆ จะสามารถทำงานร่วมกันเมื่อข้ามระบบปฏิบัติการกันได้ ด้วยเหตุผลนี้เพียงเหตุผลเดียวก็จะทำให้การอัพเกรดเป็นระบบ Windows 7 นั้นง่ายกว่าการอัพเกรดจากระบบ Windows XP เป็นระบบ Windows Vista ถ้าองค์กรของคุณเหมือนกับองค์กรทั่วๆ ไป คือ ยังใช้ระบบงาน Windows XP อยู่ คุณก็ต้องอัพเดตโปรแกรมหลักๆ ของคุณ แต่ถ้าคุณเริ่มต้นจากระบบ Windows Vista ซึ่งมีทั้งโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกันได้กับระบบ Windows 7 และโปรแกรม Shim ที่ได้รับการทดสอบมาอย่างดี ก็จะทำให้งานของคุณง่ายขึ้นมาก

2. การทำงานร่วมกันได้ของฮาร์ดแวร์และความต้องการต่างๆ
การลงระบบ Windows Vista มาใช้งานตั้งแต่ระบบออกใหม่ๆ นั้น นอกจากจะต้องอัพเกรดโปรแกรมอย่างมากแล้ว เราก็ต้องอัพเดตฮาร์ดแวร์ของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้เพราะ Windows Vista ต้องใช้หน่วยความจำขนาดใหญ่และระบบกราฟิกประสิทธิภาพสูง แต่ข้อดีก็คือ ระบบ Windows Vista นั้นจะมีระบบจัดการและระบบความปลอดภัยที่คุณหาไม่ได้ในระบบ Windows XP และเนื่องจากระบบ Windows Vista ต้องการระบบฮาร์ดแวร์ที่เหนือกว่า จึงทำให้ระบบทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่า เช่น การใช้โปรแกรม Windows Search 4 และโปรแกรม Windows Aero และเพิ่มอัตราเร็วการตอบสนองของเครื่องพีซี เช่น เทคโนโลยี ReadyBoost ที่ทำให้การโหลดโปรแกรมเร็วขึ้น เพราะระบบจะเก็บโปรแกรมที่มีการใช้งานบ่อยส่วนหนึ่งไว้ในหน่วยความจำ
ระบบ Windows 7 นั้นถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีบนฮาร์ดแวร์ที่สามารถรันระบบ Windows Vista ได้ดีเช่นกัน แถมยังทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่าและเสถียรกว่าด้วย ทีมงานออกแบบ Windows 7 นั้นได้มุ่งความสนใจไปที่โปรแกรมพื้นฐานต่างๆ รวมไปถึงการรักษาการทำงานร่วมกันของโปรแกรมและฮาร์ดแวร์ต่างๆ ด้วย ในระบบการทำงานจริง คุณจะพบว่าระบบ Windows 7 นั้นใช้เวลาบูทได้เร็วกว่าและยังใช้พื้นที่ในหน่วยความจำหลักน้อยกว่า Windows Vista อีกต่างหาก

3. ทำงานร่วมกับระบบ Windows Server 2008 ได้ดีกว่า
ประโยชน์หลักอย่างหนึ่งของระบบปฏิบัติการตัวใหม่เอี่ยมอ่องอย่าง Windows 7 นี้คือ ระบบ Windows 7 และระบบ Windows Server 2008 จะใช้โค้ดแบบเดียวกันและมีโครงสร้างการให้บริการ (Servicing model) แบบเดียว โครงสร้างการให้บริการนี้หมายถึงว่า ถ้าระบบมีการอัพเดตหรือมีการอัพเดตทางด้านระบบความปลอดภัย ข้อมูลอัพเดตเหล่านี้จะมีการแชร์กันในเครื่องพีซีและเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ทำให้การรักษาโครงสร้างของระบบอัพเดตทำได้ง่ายขึ้น
นอกเหนือจากนั้น สภาพแวดล้อมระบบที่ใช้ทั้งระบบ Windows 7 และระบบ Windows Server 2008 จะขยายการทำงานของฟังก์ชั่นและช่วยทำให้สภาพแวดล้อมมีความปลอดภัยสูงขึ้น ตัวอย่างเด่นๆ คือ โปรแกรม DirectAccess ซึ่งจะเอื้อให้มีการบริหารจัดการและอัพเดตเครื่องคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่จากระยะไกล เมื่อเครื่องเหล่านั้นต่อเข้าระบบอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ต้องต่อเข้ากับระบบขององค์กรแต่อย่างใด ขีดความสามารถเช่นนี้จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ในระบบนั้นได้รับอัพเดต Patch ตามกำหนดเวลา และยังทำให้หน่วยงานไอทีสามารถอัพเดตการตั้งค่าของระบบผ่านทาง Group Policy อีกด้วย ผู้ใช้งานสามารถใช้โปรแกรม DirectAccess เพื่อเข้าถึงส่วนต่างๆ ของระบบในองค์กรโดยไม่ต้องใช้ระบบ VPN (ระบบ DirectAccess ต้องรันบนระบบ IPSec และ IPv6 นอกเหนือจากลงระบบปฏิบัติการ Windows Server 2008 R2 แล้ว)

4. การเข้ารหัสข้อมูลที่ครอบคลุมไปถึงอุปกรณ์ต่อที่ถอดออกได้
ปัจจุบันมีข่าวออกมามากเหลือเกินว่า บริษัทต่างๆ นั้นได้สูญเสียข้อมูลชิ้นสำคัญๆ ไป บางธุรกิจนั้น การสูญเสียข้อมูลสำคัญก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางกฎหมายตามมา แต่ในบางวงการ การสูญเสียข้อมูลอาจทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะเป็นในกรณีไหนก็ตาม นโยบายรักษาความปลอดภัยที่รอบคอบพอสามารถกำหนดได้ว่า ข้อมูลสำคัญจะต้องได้รับการปกป้องในกรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์หายหรือโดนขโมยไป นอกเหนือจากนั้น การป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่เป็นความลับโดนเอาออกไปจากระบบขององค์กรก็เป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งในการจัดการการปฏิบัติตามนโยบายที่มีประสิทธิภาพ
ระบบ Windows 7 นั้นใช้เทคโนโลยี BitLocker ซึ่งมีใช้งานครั้งแรกในระบบ Windows Vista และจะอำนวยการเข้ารหัสข้อมูลให้กับ boot volume ทั้งหมดในเครื่องพีซี นอกจากนั้น ในระบบ Windows 7 ยังมีโปรแกรม BitLOcker To Go ที่จะปกป้องข้อมูลในอุปกรณ์ถอดได้อย่าง USB Flash Drive โปรแกรม BitLocker Drive Encryption และ BitLocker To Go นั้นสามารถถูกควบคุมผ่าน Group Policy ได้ ทำให้ข้อมูลสำคัญๆ ของคุณได้รับการคุ้มครองจากมืออาชีพมากขึ้น

5. ควบคุมว่าโปรแกรมไหนทำงานบนเครื่องใดได้บ้าง
ระบบ Windows 7 มีโปรแกรมชื่อว่า AppLocker ซึ่งจะเอื้อให้ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถกำหนดได้ว่า โปรแกรมใดสามารถทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ใดได้บ้าง ด้วยโปรแกรมนี้ คุณสามารถจัดการการลงโปรแกรมที่ถูกกฎหมายและสามารถควบคุมโปรแกรมที่สำคัญๆ ได้ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ มันสามารถป้องกันไม่ให้มีโปรแกรมมุ่งร้าย (MaIware) มาทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ในองค์กรได้ โปรแกรม AppLocker ทำงานแบบใช้กฎ ซึ่งจะกำหนดว่าเครื่องไหนรันแอพพลิเคชั่นใดได้บ้าง และจะมี Publisher rules ที่จะเก็บรายละเอียดกฎเอาไว้ เมื่อมีการอัพเดตเวอร์ชั่นโปรแกรมเรื่อยๆ
ถ้าคุณต้องการดูว่าโปรแกรม AppLocker นั้นลงระบบและจัดการอย่างไร ลองคลิกที่นี่เพื่อดูตัวอย่างหน้าจอและการใช้งานได้

6. เขียนสคริปต์ตั้งค่าเพื่อให้ระบบทำงานกิจวัตรแทนคุณได้อย่างอัตโนมัติ
เพื่อให้ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถรักษาสภาพแวดล้อมระบบให้คงที่และเพิ่มผลผลิตในการทำงาน ระบบ Windows 7 ได้จัดเตรียมระบบการจัดการสคริปต์แบบกราฟิกรูปแบบใหม่ หรือโปรแกรม Windows PowerShell 2.0 ที่เป็นภาษาการเขียนสคริปต์ที่สมบูรณ์และทรงพลัง ซึ่งรองรับการขยายโครงสร้าง (Branching), การวนลูป (Looping), ฟังก์ชั่นต่างๆ, การแก้ไขโปรแกรม, การจัดการข้อผิดพลาด (Exception Handling), และการทำให้เป็นค่าสากล (Internationalization)
·         โปรแกรม PowerShell 2.0 นั้นมีหน้าจอสวยงามที่ใช้งานง่าย ทำให้การสร้างสคริปต์เป็นงานที่ไม่ยุ่งยาก โดยเฉพาะกับผู้ดูแลระบบที่ไม่ชอบการทำงานในแบบ command-line ที่ต้องป้อนคำสั่งด้วยตัวอักษรที่ยุ่งยาก
·         โปรแกรม PowerShell 2.0 นั้นรองรับการทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์รีโมทสองแบบ คือ แบบกระจายซึ่งจะจัดการสคริปต์แบบ one-to-many และแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ซึ่งจะรองรับการทำงานกับเครื่องเฉพาะเจาะจง คุณยังสามารถใช้งาน PowerShell Restricted Shell จำกัดจำนวนคำสั่งและตัวแปรคำสั่งที่ผู้ดูแลระบบจะสามารถใช้งานได้ และยังจำกัดได้ว่า สคริปต์นั้นจะให้รันโดยใครบ้าง
·         โปรแกรม PowerShell 2.0 สามารถใช้ร่วมงานกับ Group Policy Management Console (ต้องดาวน์โหลดมาต่างหาก) และจะอนุญาตให้ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถใช้สคริปต์ที่เขียนจัดการ Object ของ Group Policy ได้ และยังสามารถแก้ไขค่านโยบายต่างๆ ที่กำหนดใน Registry ของ Windows 7 ได้ด้วย ขณะเดียวกัน คุณสามารถใช้โปรแกรม PowerShell ตั้งค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งเรื่อง การออกจากระบบ การเข้าระบบ การสตาร์ทเครื่อง และการปิดเครื่องที่สามารถควบคุมและรันได้ผ่านทาง Group Policy
หากคุณต้องการดูตัวอย่างการใช้งานของ PowerShell 2.0 คร่าวๆ ให้คลิกที่นี่

7. สามารถหาหนทางแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ระบบ Windows 7 นั้นได้เตรียมเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณระบุปัญหาและหาทางแก้ไขปัญหาได้เร็วยิ่งขึ้น แต่ถ้าคุณจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจาก Help Desk จริงๆ ระบบ Windows 7 ก็มีฟังก์ชั่นและเครื่องมือการตอบปัญหาที่จะทำให้การหาทางแก้ไขปัญหานั้นรวดเร็วทันใจ
·         โปรแกรม Problem Steps Recorder เอื้อให้ผู้ใช้งานระบบสามารถลองทำขั้นตอนที่เกิดความผิดพลาดอีกครั้งและให้บันทึกขั้นตอนเหล่านั้นไว้ด้วย ทุกๆ ขั้นที่บันทึกลงไปในโปรแกรม จะมีรูปหน้าจอพร้อมกับค่าระบบด้วย หลังจากที่บันทึกเสร็จ ไฟล์นี้จะโดนย่อขนาดและส่งไปให้พนักงานช่วยเหลือต่อไป
·         ระบบ Windows 7 ยังมีชุดเครื่องมือของการตอบคำถามที่จะรวมเอาสคริปต์ของโปรแกรม PowerShell และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ดูแลระบบสามารถรันชุดเครื่องมือนี้โดยใช้หน้าจอป้อนคำสั่ง (Command Line) และควบคุมการทำงานผ่านทางการตั้งค่าของ Group Policy
·         ระบบ Windows 7 ยังมีฟังก์ชั่น Unified Tracing ที่จะช่วยระบุและแก้ปัญหาการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายผ่านทางเครื่องมือเพียงตัวเดียว ฟังก์ชั่น Unified Tracing นั้นจะรวบรวมบันทึกข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบและแพ็คเก็ตในทุกๆ เลเยอร์ของเน็ตเวิร์ก เพื่อช่วยให้การวิเคราะห์และแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพขึ้น

8. สร้างและจัดการไฟล์อิมเมจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ระบบ Windows 7 นั้นมีเครื่องมือหลายตัวที่จะช่วยในการสร้างและเปิดใช้งานระบบอิมเมจและทำให้ระบบของผู้ใช้งานเตรียมพร้อมใช้งานเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
Deployment Image Servicing and Management (DISM) เป็นเครื่องมือตัวหนึ่งในระบบ Windows 7 ที่เป็นตัวกลางคอยสร้างและเซอร์วิสอิมเมจของระบบวินโดวส์แบบออฟไลน์ ผู้ดูแลระบบสามารถใช้งานฟังก์ชั่นที่เกี่ยวกับอิมเมจได้หลาย ๆ ตัวในฟังก์ชั่นตัวนี้ ตั้งแต่การ Mount และ Unmount อิมเมจของระบบ การเพิ่ม การถอด การแจกแจงจำนวนไดรฟ์เวอร์และแพ็คเก็ตต่างๆ การเปิดและปิดฟังก์ชั่นในระบบ Windows การทำให้เป็นค่าสากล และการเก็บค่าอิมเมจแบบออฟไลน์ ระบบ Windows 7 ยังมีกระบวนการและเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการเครื่อง Virtual (VHD) และไฟล์อิมเมจแบบ native file-based (WIM)
ระบบ Windows 7 ยังมีการรวมเอาฟังก์ชั่น Dynamic Driver Provisioning ซึ่งใช้เก็บไดรฟ์เวอร์ของอุปกรณ์ต่างๆ แยกจากไฟล์อิมเมจที่ใช้งานอยู่ และสามารถเข้าไปอยู่ในระบบได้โดยดูจาก Plug and Play ID ของฮาร์ดแวร์ หรือสามารถกำหนดเป็นชุดไว้ก่อน ซึ่งจะอ้างอิงจากข้อมูลที่เก็บไว้ในระบบข้อมูลเข้าและข้อมูลออกขั้นพื้นฐาน หรือ BIOS การลดจำนวนไดรฟ์เวอร์ในระบบนั้นจะเป็นการช่วยลดโอกาสที่ไดรฟ์เวอร์แต่ละตัวจะทำงานขัดแย้งกัน ซึ่งในที่สุดแล้วจะช่วยลดเวลาการติดตั้งระบบและลดความเสี่ยงที่เครื่องคอมพิวเตอร์แฮงก์ได้ด้วย
เมื่อคุณพร้อมที่จะใช้งานระบบ Window 7 ฟังก์ชั่น Multicast Multiple Stream Transfer จะเอื้อให้เซิร์ฟเวอร์สามารถส่งไฟล์อิมเมจไปที่ไคลเอนต์ได้หลายๆ ไคลเอนต์พร้อมกัน และจะจับกลุ่มไคลเอนต์ที่มีขีดความสามารถทางด้านแบนด์วิธที่ใกล้เคียงกันให้กลายเป็นเครือข่ายที่มีการส่งข้อมูลอย่างต่อเนื่องหลายๆ ช่องทาง เพื่อให้อัตราการถ่ายโอนข้อมูลเร็วสูงสุดและทำให้การใช้งานแบนด์วิธมีประสิทธิภาพมากที่สุด...........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น